วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558
การซ้อนคำ 2
การซ้อนคำ
เมื่อวานเรารู้เกี่ยวกับการซ้อนคำเพื่อความหมายแล้ว วันนี้เรามาดูการซ้อน
คำเพื่อเสียง กันบ้างดีกว่าค่ะ
2. คำซ้อนเพื่อเสียง คือการนำคำมูลที่มีความหมายใกล้เคียงกันนำมาซ้อนกันเพื่อให้เกิดเสียง
คล้องจองกัน
วิธีการสร้างคำซ้อนเพื่อเสียง
- นำคำมูลที่มีความหมายและเสียงที่ใกล้เคียงกันนำมาซ้อนกัน เช่น
ก่อเกิด เก่งกล้า แข็งขัน ขับขี่ ขัดข้อง เคร่งเครียด ค้างคา บู้บี้
- สร้างคำที่มีเสียงคล้ายกับคำมูลที่เป็นคำหลัก เสียงที่สร้างขึ้นมาไม่มีความหมายมีหน้าที่ เพียง
ก่อให้เกิดเสียงคล้องจองความหมายของคำยังคงอยู่ที่ศัพท์หลักและอาจมีหลายพยางค์ เช่น
โยกเยก เยินยอ โอนเอน อุบอิบ ยั่งยืน ยัดเยียด ชิงชัง เทือกเถา ผลหมากรางไม้
- คำมูลที่มีเสียงซ้อนกันอยู่มีลักษณะเป็นเสียงควบคู่ ดังนั้นคำชนิดนี้อาจเรียกได้ว่าคำมูลที่มี
เสียงซ้อนกัน แต่บางคนก็จัดเป็นคำซ้อนเพื่อเสียง เช่น
โลเล โยเย วอกแวก ตุ้งติ้ง ตึงตัง ต่องแต่ง ร่อแร่ จุกจิก ดุกดิก จุ๋มจิ๋ม รุ่งริ่ง สะเปะสะปะ
3. การซ้ำคำ คือการนำคำมูลมาซ้ำคำกันเพื่อให้เกิดความหมายที่ใกล้เคัยงความหมายเดิม หรือ
เกิดความหมายใหม่เมื่อซ้ำแล้วสามารถใช้ไม้ยมก เขียนแทนคำซ้ำนั้นได้ เช่น นานๆ เป็นคำมูลไม่ใช่
คำซ้ำส่วนคำที่ทำหน้าที่ต่างกันในประโยคก็ไม่ใช่คำซ้ำ เช่น
สถานที่ที่ฉํนขอบมากที่สุดคือสวนสาธารณะ ที่ที่ ไม่ใช่คำซ้ำ
ของของใครทิ้งไว้เกะกะ ของของไม่ใช่คำซ้ำ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น